นโยบาย ความเป็นส่วนตัว

การเคหะแห่งชาติ ตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า รวมถึงบุคคลธรรมดา ที่ดำเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่ง ที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความปลอดภัย และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
การเคหะแห่งชาติจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง

                         ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของการเคหะแห่งชาติ

“ลูกค้า” หมายความว่า บุคคลที่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ ของการเคหะแห่งชาติ และหมายความรวมถึงผู้มีอำนาจดำเนินการแทนบุคคลดังกล่าวตามกฎหมาย เช่น ผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ผู้อนุบาลของผู้ไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์ของผู้เสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น

“บุคคลทั่วไป” หมายความว่า บุคคลที่เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ ของการเคหะแห่งชาติ และหมายความรวมถึงผู้เข้าร่วมแคมเปญหรือกิจกรรมทางการตลาด ของการเคหะแห่งชาติ ผู้ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของการเคหะแห่งชาติผ่านช่องทางต่าง ๆ และ/หรือ ผู้ใช้บริการต่าง ๆ ของการเคหะแห่งชาติ ผ่านสื่อออนไลน์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แล้วแต่กรณี

2. ข้อมูลส่วนบุคคล

       2.1 “ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประกันสังคม เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล (email address) ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น

      อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อการเคหะแห่งชาติ ที่อยู่ของการเคหะแห่งชาติ เลขทะเบียนนิติบุคคลของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) ที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) กลุ่มของการเคหะแห่งชาติ เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น


       2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ซึ่งการเคหะแห่งชาติต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยการเคหะแห่งชาติจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่การเคหะแห่งชาติมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ตามที่กฎหมายอนุญาต
 
       ทั้งนี้ ต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
 
       กรณีการเคหะแห่งชาติ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน หรือการเคหะแห่งชาตินำข้อมูลของท่านออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับการเคหะแห่งชาติ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) การเคหะแห่งชาติ ไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน ยกเว้นในกรณีที่การเคหะแห่งชาติ ได้รับความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่การเคหะแห่งชาติเก็บรวบรวม

                           การเคหะแห่งชาติ ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลที่การเคหะแห่งชาติจะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ ได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่การเคหะแห่งชาติ จัดเก็บไว้ ดังนี้
 

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน

รายละเอียด : เช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เลขที่ประจำตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ สถานภาพการสมรส

รายละเอียด : เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น

รายละเอียด :
(ก) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ชื่อบัญชีไลน์ (LINE ID) ชื่อบัญชีเฟสบุ๊ก (Facebook ID) บัญชีกูเกิล (Google ID) บัญชีทวิตเตอร์ (Twitter ID) และบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่น ๆ ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อ ได้ในกรณีฉุกเฉิน

(ข) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร

(ค) ข้อมูลการติดต่อกับการเคหะแห่งชาติ (Communication Data) เช่น ข้อมูล การบันทึกภาพหรือเสียง เมื่อมีการติดต่อกับการเคหะแห่งชาติ

(ง) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอ

(จ) ข้อมูลการศึกษาและการอบรม เช่น การศึกษา หลักสูตรที่เข้าอบรม

(ฉ) ข้อมูลการเคหะแห่งชาติที่ทำงาน เช่น ชื่อสถานที่ทำงาน ที่อยู่ของที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ชื่อผู้บังคับบัญชา

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

การเคหะแห่งชาติ ดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ผ่านกระบวนการ ดังนี้
 
       4.1 ข้อมูลที่ท่านให้กับการเคหะแห่งชาติโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในการสมัครใช้บริการ รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ คำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล ส่วนบุคคลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่น คำขอใช้บริการหรือคำขอข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของการเคหะแห่งชาติ ข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ข้อมูลที่ใช้สมัครลงทะเบียน สร้างบัญชีการใช้งาน (Account) หรือ โปรไฟล์ (Profile) กับการเคหะแห่งชาติ เพื่อใช้บริการของการเคหะแห่งชาติ ทั้งทางช่องทางออฟไลน์และช่องทางออนไลน์ ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับการเคหะแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนังสือหรือการสนทนารวมถึงภาพและเสียง ตลอดจนข้อมูลที่ท่านให้กับการเคหะแห่งชาติผ่านการทำแบบสำรวจ การให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลที่ท่านเข้าใช้บริการ ณ ที่สำนักงานใหญ่ หรือสำนักงานสาขา ศูนย์บริการลูกค้า หรือบูธจัดแสดง สินค้าหรือบริการ เป็นต้น
 
      4.2 ข้อมูลที่การเคหะแห่งชาติจัดเก็บอัตโนมัติ เมื่อท่านเข้าใช้บริการผ่านระบบของการเคหะแห่งชาติหรือเข้าชมเว็บไซต์ของการเคหะแห่งชาติผ่าน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะการทำงานเหมือนหรือคล้ายกัน
 
      4.3 ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก หรือข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้ กรมการปกครองกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) หน่วยงานหรือการเคหะแห่งชาติ หรือสมาคมหรือสมาพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน เป็นต้น
 
      4.4 ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับการเคหะแห่งชาติ ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับการเคหะแห่งชาติ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน คู่ค้าหรือพันธมิตรของ การเคหะแห่งชาติ ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือ ได้รับมอบหมายจากการเคหะแห่งชาติผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การประชุม การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ VDO Call Service หรือ โดยวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติอาจเก็บข้อมูลในรูปข้อความ ตลอดจนภาพและเสียง
 
      4.5 ข้อมูลที่ท่านร่วมทำกิจกรรมกับการเคหะแห่งชาติ ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาดการประกวด การจับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรืองานแข่งขันต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของการเคหะแห่งชาติ และ/หรือคู่ค้าหรือพันธมิตรที่ร่วมทำกิจกรรมกับ การเคหะแห่งชาติ หรือการเคหะแห่งชาติมอบหมายหรืออนุญาตให้ทำกิจกรรมดังกล่าว

      เมื่อท่านตกลงและยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่การเคหะแห่งชาติ ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าผู้ใช้บริการไม่ว่าทางธุรกิจ หรือทางอื่นใด เช่น สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้ว เกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้และได้รับการยินยอมจากกบุคคลเหล่านั้นแล้ว

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

        การเคหะแห่งชาติ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้
        5.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาสมัครใช้บริการ หรือสัญญาอื่นใดหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครใช้บริการของท่านก่อนเข้าทำสัญญา ตามแก่กรณี
        5.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น  กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
        5.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ของการเคหะแห่งชาติโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิด สิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน
        5.4 ความยินยอม (Consent) การเคหะแห่งชาติจะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมาย กำหนดให้ขอความยินยอม หรือการเคหะแห่งชาติไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผล เพื่อประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า 
การเคหะแห่งชาติดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 
1. วัตถุประสงค์ที่ต้องได้รับความยินยอม
วัตถุประสงค์

1. เพื่อการบริหาร จัดการด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์
   รายละเอียด : โฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำแคมเปญทางการตลาด วิเคราะห์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และติดต่อลูกค้าเพื่อให้ คำแนะนำหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดการด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งท่านปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของการเคหะแห่งชาติ 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานความยินยอม

2. วัตถุประสงค์ที่ไม่ต้องได้รับความยินยอม
วัตถุประสงค์

1. เพื่อการดำเนินการ ตามคำขอของท่าน ก่อนเข้าทำสัญญาหรือ เพื่อปฏิบัติตามสัญญา
   รายละเอียด : เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวใช้ในการทำสัญญาตามที่หน่วยงานราชการกำหนดไว้ เช่น การนำข้อมูลเชื้อชาติ บันทึกในใบจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของสำนักงานที่ดิน เป็นต้น 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

2. เพื่อการดำเนินการ ตามคำขอของท่าน ก่อนเข้าทำสัญญาหรือ เพื่อปฏิบัติตามสัญญา
   รายละเอียด : เพื่อการขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึง การจัดการ Account ของท่าน ข้อมูล
การสมัครเข้าเป็นสมาชิก จัดส่งการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และการคืนสินค้า และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและ/หรือ  บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามสัญญา

3. เพื่อการบริหาร จัดการด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์
   รายละเอียด : โฆษณาประชาสัมพันธ์ ทำแคมเปญทางการตลาด วิเคราะห์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งท่านเป็นพรีเซนเตอร์ 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามสัญญา

4. เพื่อการบริหารจัดการ ด้านปฏิบัติการ (Operation) และการดูแลลูกค้า หลังการขาย
   รายละเอียด : ตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคล 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

   รายละเอียด : เพื่อนำมาพัฒนาช่องทางการให้บริการออนไลน์ของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้ท่านได้รับบริการจากการเคหะแห่งชาติ อย่างมีคุณภาพ รวดเร็วและ สะดวกสบายที่สุด 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

   รายละเอียด : เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานหรือถ่ายโอนข้อมูลในบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ที่
การเคหะแห่งชาติได้ให้บริการต่อท่าน ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้มากกว่า 1 เครื่อง และเพื่อให้การเคหะแห่งชาติสามารถดูแล ตรวจสอบการเข้าใช้งานบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่น หรือการใช้งานโดย ฉ้อฉล หรือในทางมิชอบ รวมถึงเพื่อปรับปรุงการให้บริการของการเคหะแห่งชาติให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามสัญญา , ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

5. การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
   รายละเอียด : จัดทำระบบสารสนเทศเพื่อเก็บข้อมูล ประมวลผล ข้อมูลเชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้า ตัวแทน 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย , ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

   รายละเอียด : จัดทำและให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อ ประมวลผลข้อมูลของลูกค้าจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ
การเคหะแห่งชาติ เช่น Facebook, Linkedin, Twitter, Youtube, Line เป็นต้น 
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย , ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

6. เพื่อให้สามารถ จัดการพัฒนา และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนิน ธุรกิจได้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
   รายละเอียด : การบริหารจัดการสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึง เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน) การตรวจและป้องกัน การฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุง รักษาและการใช้ระบบไอที
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย , ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

7. การบริหารจัดการงาน เรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง
   รายละเอียด : การตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต การฉ้อโกง หรือการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามสัญญา , ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย , ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

   รายละเอียด : การดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือดำเนินมาตการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิ ตามสัญญาและตามกฎหมาย การระงับข้อพิพาท หรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเคหะแห่งชาติกับท่านอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของการเคหะแห่งชาติ
   ฐานในการประมวลผลข้อมูล : ฐานปฏิบัติตามสัญญา , ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย , ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม  

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในการเคหะแห่งชาติและบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้ 

 

6.1 ภายในการเคหะแห่งชาติ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในการเคหะแห่งชาติเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงาน เหล่านี้ของการเคหะแห่งชาติ จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็น และเหมาะสม

(1) เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล ตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ

(2) ผู้บริหาร หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่าน ที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจ เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล

(3) ฝ่ายหรือทีมสนับสนุนต่าง ๆ เช่น กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ, ฝ่ายธุรการ, ฝ่ายบัญชี,  ฝ่ายจัดซื้อ, ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์, ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น

(1) หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมศุลกากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา รัฐบาล ศาล กรมบังคับคดี หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย

(2) องค์กรหรือบุคคลภายนอก การเคหะแห่งชาติ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้กับองค์กร หรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถาม เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน และเพื่อที่จะได้ให้บริการหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของท่าน

7. การตลาดและสิทธิพิเศษ (Marketing and Privilege)

การเคหะแห่งชาติ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่แจ้งให้ท่านทราบผ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย โดยการเคหะแห่งชาติอาจจะใช้ชื่อ นามสกุล และข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และรหัสไปรษณีย์ เพื่อ 

7.1 ส่งข้อความแจ้งสิทธิประโยชน์ให้ท่านทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของการเคหะแห่งชาติ รวมถึงการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการแบบ Cross Selling และ/หรือ Upselling

7.2 โครงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Loyalty Program) หรือโครงการสิทธิพิเศษของลูกค้า (Privilege Program)

7.3 กิจกรรมส่งเสริมการขายและสื่อสารทางการตลาด รวมถึงการประกวด การจับรางวัลจับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ และการแข่งขันต่าง ๆ ที่ท่านสนใจเข้าร่วมกิจกรรม

7.4 การบริจาคเพื่อกิจกรรมด้านการกุศล และ/หรือด้านอื่น ๆ ที่ไม่แสวงหากำไร

การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น การเคหะแห่งชาติอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ บุคลากร และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจของการเคหะแห่งชาติเพื่อให้การดำเนินการใด ๆ นั้นบรรลุตาม วัตถุประสงค์ข้างต้น

หากท่านไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารการตลาดและสิทธิพิเศษสามารถแจ้งให้การเคหะแห่งชาติทราบ ได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกรับอีเมลเกี่ยวกับการตลาดได้โดยคลิกที่ลิงก์ยกเลิกการรับข้อมูล (Unsubscribe) ตามที่ปรากฏด้านล่างของอีเมลแต่ละฉบับโดยการเคหะแห่งชาติจะพยายามเร่งดำเนินการตามความประสงค์ของท่านโดยเร็วที่สุด

8. การเพิกถอนความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม

8.1 ในกรณีที่การเคหะแห่งชาติเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัย
ฐานความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับการเคหะแห่งชาติได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ได้ให้ความยินยอมไปแล้ว

8.2 หากท่านเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนการให้ความยินยอม โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้การเคหะแห่งชาติทราบ เพื่อให้การเคหะแห่งชาติสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย

     ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งหมดหรือบางส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยแจ้งให้การเคหะแห่งชาติทราบ 

     หากท่านเพิกถอนความยินยอมการที่ท่านยินยอมให้การเคหะแห่งชาติเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอันเนื่องมาจากเหตุผลหรือวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่สำหรับการดำเนินการด้านการตลาด การเคหะแห่งชาติอาจไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ หรือบริการ และ/หรือ บริหารจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ หรือ ความสัมพันธ์ และ/หรือ บัญชีของท่าน ที่มีกับการเคหะแห่งชาติได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านเสียประโยชน์ในการใช้บริการของการเคหะแห่งชาติ ในระดับเดียวกับกรณีที่ท่านให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อการเคหะแห่งชาติ

     ท่านสามารถดำเนินการต่อไปนี้เพื่อลบข้อมูลของท่านได้ ดังนี้

     – ลบข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง เรามอบเครื่องมือที่ท่านสามารถใช้เพื่อลบข้อมูลบางอย่างได้ ตัวอย่างเช่น ใช้ปุ่ม “ลบ” เพื่อลบเนื้อหาที่ท่านได้โพสต์ลงในบัญชีของท่านไปแล้ว เมื่อท่านลบเนื้อหา ผู้ใช้คนอื่นจะไม่เห็นเนื้อหานั้นอีกต่อไป

     – ลบบัญชีอย่างถาวร เรามอบเครื่องมือที่ท่านสามารถใช้เพื่อลบบัญชีอย่างถาวรได้ โดยเลือกที่เมนู “ลบบัญชี” หากท่านยืนยันการลบบัญชี การเคหะแห่งชาติจะลบข้อมูลของท่าน ซึ่งรวมถึงสิ่งที่ท่านโพสต์ หรือขอรับบริการผ่านระบบ เช่น รูปภาพและการอัพเดตสถานะของท่าน ข้อมูลการขอรับบริการ เว้นแต่ในกรณีที่เราจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลตามที่ได้ระบุไว้ใน หัวข้อ 9.การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อบัญชีของท่านถูกลบ จะไม่สามารถเปิดใช้งานบัญชีอีกครั้งได้ และจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูล ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่ท่านได้โพสต์ และขอรับบริการไปแล้วได้

     หากต้องการเพิกถอนความยินยอมเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากที่การเคหะแห่งชาติได้จัดเตรียมเครื่องมือไว้ให้แล้วนั้น ท่านสามารถขอให้การเคหะแห่งชาติลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยสมบูรณ์ (ที่รวบรวมโดยแอป) ผ่านการ ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับการเคหะแห่งชาติ และท่านสามารถติดต่อการเคหะแห่งชาติเพื่อขอทราบรายละเอียดในนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ที่ หัวข้อ 15.ช่องทางการติดต่อ

     การลบข้อมูลของท่านจะใช้เวลานานเท่าใด หากท่านส่งคำขอให้การเคหะแห่งชาติลบบัญชีหรือเนื้อหาของท่าน เราอาจใช้เวลาสูงสุดถึง 90 วันเพื่อดำเนินการลบข้อมูลของท่านหลังจากที่เราเริ่มกระบวนการลบบัญชีหรือได้รับคำขอให้ลบเนื้อหา หลังจากลบข้อมูลดังกล่าวแล้ว เราอาจใช้เวลาสูงสุดถึงอีก 90 วันเพื่อดำเนินการลบข้อมูลออกจากส่วนการสำรองข้อมูลและการกู้คืนจากความเสียหาย

9. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

9.1 การเคหะแห่งชาติจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและวัตถุประสงค์ที่การเคหะแห่งชาติจะต้องเก็บรวบรวม ใช้และประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ

9.2 การเคหะแห่งชาติจะยังดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับการเคหะแห่งชาติ เท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือทำการเก็บในรูปแบบที่ทำให้ระบุตัวบุคคลไม่ได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น “การทำข้อมูลนิรนาม” (Anonymous Data) หรือ “การทำข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีก โดยวิธีการทางเทคนิค” (Pseudonymous Data)

9.3 การเคหะแห่งชาติอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยการเคหะแห่งชาติจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับการเคหะแห่งชาติ โดยการเคหะแห่งชาติอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต

9.4 เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาและอายุความที่เกี่ยวข้อง การเคหะแห่งชาติ จะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามการเคหะแห่งชาติมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปแม้จะพ้นอายุความตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

9.5 การเคหะแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้ ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เป็นการถาวร หรือโดยประการอื่นเพื่อจำกัดข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเมื่อการเคหะแห่งชาติต้องปฏิบัติตามคำขอของท่านให้การเคหะแห่งชาติทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

10. การเคหะแห่งชาติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และความลับของข้อมูลส่วนบุคคล การเคหะแห่งชาติ ถือปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติเรื่องความมั่นคงปลอดภัยสำหรับสารสนเทศของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001 ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่ง มีการทบทวนทุก ๆ ปี อย่างน้อย
ปีละ 1 ครั้ง

การเคหะแห่งชาติ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัย ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยการเคหะแห่งชาติได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากการเคหะแห่งชาติใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และการเคหะแห่งชาติได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากการเคหะแห่งชาติมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูล ส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่การเคหะแห่งชาติกำหนด

11. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

11.1 ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมให้การเคหะแห่งชาติเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับ หรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิ์ที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อยู่กับการเคหะแห่งชาติ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิ์นั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้การเคหะแห่งชาติทำสำเนาข้อมูล ส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้การเคหะแห่งชาติเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ในความครอบครองของการเคหะแห่งชาติ ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติอาจปฏิเสธคำขอของท่านหากการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือการเคหะแห่งชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่การเคหะแห่งชาติได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้การเคหะแห่งชาติ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่การเคหะแห่งชาติส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าว ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ การเคหะแห่งชาติในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่การเคหะแห่งชาติ จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของการเคหะแห่งชาติได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับการเคหะแห่งชาติ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการ ตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของการเคหะแห่งชาติ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

(4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้น เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของการเคหะแห่งชาติ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจ เพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน การเคหะแห่งชาติจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่การเคหะแห่งชาติสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมาย ได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

(5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าการเคหะแห่งชาติหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่การเคหะแห่งชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

(6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่การเคหะแห่งชาติอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่การเคหะแห่งชาติ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้ การเคหะแห่งชาติระงับการใช้แทน

(7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้การเคหะแห่งชาติแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(8) สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของการเคหะแห่งชาติ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อการเคหะแห่งชาติ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 16. ของประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเคหะแห่งชาติ ได้ทำ
การฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อการเคหะแห่งชาติได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่งการเคหะแห่งชาติขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด

การใช้สิทธิของท่านตามข้อ 11.1 อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุ จำเป็นที่การเคหะแห่งชาติอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะการใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากการเคหะแห่งชาติปฏิเสธคำขอข้างต้น การเคหะแห่งชาติจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

12. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และความลับของข้อมูลส่วนบุคคล การเคหะแห่งชาติ ถือปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติเรื่องความมั่นคงปลอดภัยสำหรับสารสนเทศของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001 ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่ง มีการทบทวนทุก ๆ ปี อย่างน้อย
ปีละ 1 ครั้ง

การเคหะแห่งชาติให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอันดับแรก เช่น การเข้ารหัส การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าบุคลากรของการเคหะแห่งชาติ และบุคคลภายนอกที่ดำเนินการในนามของการเคหะแห่งชาติได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและการเคหะแห่งชาติใช้มาตรการ รักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูล

 
การเคหะแห่งชาติได้มีการทบทวน ปรับปรุงขั้นตอนและมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ส่วนบุคคลของการเคหะแห่งชาติให้เป็นปัจจุบันสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และให้การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ความสมบูรณ์ ความพร้อมใช้งาน และความคล่องตัวในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการปกป้อง การสูญหายและ การเก็บรวบรวม การเข้าถึง การใช้ การดัดแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ จะนำมาตรการต่าง ๆ ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของการเคหะแห่งชาติ มาใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทุกประเภท ไม่ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นทางอิเล็กทรอนิกส์หรือรูปแบบเอกสารก็ตาม

13. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

ในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของการเคหะแห่งชาติ อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยัง เครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ การเคหะแห่งชาติ พยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม  การเคหะแห่งชาติ ไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้น จะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ ประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคคลภายนอกดังกล่าว    (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ การเคหะแห่งชาติ    ขอให้ท่านศึกษาและปฏิบัติ ตามประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของการเคหะแห่งชาติ

14. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

การเคหะแห่งชาติจะทำการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าเป็นประจำเพื่อให้ สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศ ความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า การเคหะแห่งชาติจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศ ความเป็นส่วนตัวที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว ฉบับนี้เป็นระยะๆ

15. ช่องทางการติดต่อ

      หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านช่องทาง หัวข้อ 8. การถอนความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม

      หากท่านพบเหตุข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ให้ไว้กับการเคหะแห่งชาติรั่วไหล ท่านสามารถขอให้การเคหะแห่งชาติดำเนินการแก้ไข ผ่านช่องทาง แจ้งเหตุรั่วไหลของข้อมูลกับการเคหะแห่งชาติ 

      ท่านสามารถติดต่อการเคหะแห่งชาติเพื่อขอทราบรายละเอียดในนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของการเคหะแห่งชาติผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

       ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: การเคหะแห่งชาติ

       สถานที่ติดต่อ: 905 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

       เบอร์โทรศัพท์: 02-351-7777

       โทรสาร: 02-351-7788

       อีเมล: prnha@nha.co.th


       เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ของการเคหะแห่งชาติ

       คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของการเคหะแห่งชาติ

       สถานที่ติดต่อ: 905 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

       เบอร์โทรศัพท์: 02-351-6619, 02-351-7191

       อีเมล: dpo@nha.co.th

Compare listings

เปรียบเทียบ
ค้นหา
ช่วงราคา จาก ถึง
คุณสมบัติอื่น ๆ
Skip to content